พระบรมราโชวาท

ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ประจำปีการศึกษา ๒๕๓๕

วันพฤหัสบดีที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๖

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้มาทำพิธีมอบปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกวาระหนึ่ง และได้ทราบว่ากิจการของมหาวิทยาลัยดำเนินก้าวหน้ามาด้วยดีทุกๆ ด้าน ขอแสดงความชื่นชมกับผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคนที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จในการศึกษา ทั้งขอขอบใจมหาวิทยาลัย ที่ได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ข้าพเจ้าและพระราชินีในโอกาสนี้ด้วย

บัณฑิตทั้งหลาย แม้จะสำเร็จปริญญาขั้นสูงแล้ว เมื่อได้เข้าทำงาน อาจยังรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะสามารถปฏิบัติงานให้ประสบผลสมบูรณ์ตามที่คาดหวังได้หรือไม่ ความจริง ข้อนี้มิใช่เรื่องที่จะต้องวิตกกังวลให้มากมายไป เพราะการทำงานกับการเล่าเรียนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก การเรียนก็เป็นงานอย่างหนึ่ง คืองานสร้างสมความรู้ ความคิด ให้เพิ่มพูนและพัฒนางอกงามขึ้นในตนเอง จัดเป็นกิจขั้นต้นที่แต่ละคนต้องทำเพื่อประโยชน์เฉพาะตัว ส่วนการทำงานนั้น เป็นการนำวิชาความรู้และความคิดที่มีอยู่ไปประกอบการให้สำเร็จประโยชน์ที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ท่านทั้งปวงต่างได้พากเพียรศึกษาจนได้รับปริญญาแล้ว ย่อมทราบได้ดีว่าตนเองต้องปฏิบัติฝึกฝนมามากมายเพียงใด ทั้งต้องใช้ความอุตสาหะรับผิดชอบ ความคิดวินิจฉัย และคุณสมบัติอื่น ๆ ประกอบพร้อมกันเพียงไหน จึงช่วยให้เล่าเรียนสำเร็จและก้าวหน้ามาได้ ท่านก้าวหน้าในการเล่าเรียนได้อย่างไร ก็จะก้าวหน้าในการทำงานได้โดยลักษณะเดียวกัน ข้อสำคัญอยู่ที่ว่า การทำงานนั้นยิ่งใหญ่และยืนยาวกว่าการเล่าเรียนมาก จำเป็นจะต้องตั้งใจให้มั่นคงแน่วแน่ยิ่งขึ้น ต้องมีความอุตสาหะพยายามมากขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย พร้อมกันนั้น ก็ต้องมี
ความคิดอ่านที่กว้างไกล ประกอบด้วยความคิดวินิจฉัยที่ยิ่งละเอียดรอบคอบและเฉลียวฉลาด ทั้งต้องประสานความเข้าใจ ประสานประโยชน์กับผู้อื่นให้ยิ่งกว้างขวางและทั่วถึง จึงจะปฏิบัติบริหารงานให้เจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จที่สมบูรณ์ได้ ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ทุกคนคิดพิจารณาสิ่งที่ได้พูดนี้ให้เข้าใจชัดเจน แล้วนำไปประพฤติปฏิบัติให้เป็นประโยชน์ ในการที่จะทำงานสร้างอนาคตให้รุ่งเรืองสดใสต่อไป

ขออวยพรให้บัณฑิตที่รับปริญญาในวันนี้ ประสบความสุข ความสำเร็จ ความเจริญมั่นคง ทั้งในการครองชีวิตและหน้าที่การงาน และขอให้ทุกท่านที่มาร่วมประชุมในพิธีนี้ มีความผาสุกสวัสดีจงทั่วกัน.