พระบรมราโชวาท

ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ประจำปีการศึกษา ๒๕๓๓

วันศุกร์ที่ ๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๔

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้มาทำพิธีมอบปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกวาระหนึ่ง ขอแสดงความชื่นชมกับผู้ที่ได้รับเกียรติพิเศษ และผู้ที่สำเร็จการศึกษาในปีนี้ทุกคน

เมื่อวันวาน ข้าพเจ้าได้พูดกับบัณฑิตในที่ประชุมนี้เป็นใจความว่า ผู้ที่ได้ผ่านการศึกษาในมหาวิทยาลัยโดยสมบูรณ์แล้ว นอกจากจะมีวิชาความรู้ที่หนักแน่นก้าวหน้า ย่อมจะมีความสามารถในการนำความรู้ ความคิด วิจารณญาณ ไปใช้ปฏิบัติกิจการงานให้เกิดประโยชน์ได้แน่นอนด้วย บัณฑิตแต่ละคนจึงควรตั้งใจพยายามนำวิชาความรู้ กับทั้งคุณสมบัติทั้งปวงที่ได้ฝึกฝนอบรมมา ไปประกอบการงาน สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้สำเร็จผล

วันนี้ จะกล่าวเสริมแก่ท่านทั้งหลายอีกว่า การจะคิดพิจารณาและวิเคราะห์วิจารณ์กรณีต่างๆ ให้ได้ถูกถ้วนตามเหตุตามผลและความเป็นจริงนั้น บุคคลจำเป็นต้องฝึกจิตใจให้มีปรกติหนักแน่นและเป็นกลาง พร้อมทั้งฝึกกระบวนการคิดให้เป็นระเบียบ ให้ได้ก่อน ทั้งนี้เพราะจิตใจที่ไม่หนักแน่นเป็นกลาง เป็นต้นเหตุให้เกิดอคติ หรือการปฏิบัติที่ไม่ถูกทาง อันเป็นตัวการสำคัญที่นำความคิดวิจารณญาณของบุคคล ให้มืดมนผิดพลาดไปจากเหตุผลและความเป็นจริง ส่วนความคิดอ่านที่ไม่เป็นระเบียบนั้น เป็นต้นเหตุของความลังเลสับสนและวุ่นวายใจ ทำให้บุคคลไม่สามารถจะคิดอ่านทำการใดๆ ให้ถูกต้องตามขั้นตอนและสำเร็จเรียบร้อยโดยไม่ติดขัดได้ เพราะฉะนั้น บัณฑิตจึงควรพยายามระมัดระวังตั้งใจให้หนักแน่นเป็นกลาง ทั้งฝึกฝนความคิดอ่านให้เป็นระเบียบจนชินชำนาญ จักได้สามารถใช้ความรู้ ความคิด วิจารณญาณ สร้างสรรค์ความสำเร็จและความเจริญก้าวหน้าทุกประการให้สมบูรณ์พร้อมได้ ดังที่ปรารภปรารถนา

ขออวยพรให้ทุกคนมีกำลังกายกำลังใจอันเข้มแข็ง มีสติปัญญาอันมั่นคงเฉียบแหลม ที่จะควบคุมความคิดและการกระทำทั้งปวง ให้ดำเนินไปในทางที่ถูกที่เจริญและเป็นประโยชน์ โดยไม่พลั้งพลาด เพื่อสามารถนำตนและประเทศชาติให้พัฒนาก้าวหน้าตลอดไปด้วยความมั่นคงสวัสดี.